โกดังขาย เติมเกมฟีฟาย
ความรู้ทั่วไป

เทคนิคการตรวจสอบทองคำแท้และการหลีกเลี่ยงของปลอม

การเลือกซื้อทองคำเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการซื้อขายที่มีความเสี่ยง เพราะมีทองคำปลอมวางขายในตลาดไม่น้อย ผู้ซื้อจึงต้องมีความรู้ในการ ตรวจสอบทองคำแท้ เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง การแยกแยะทองคำแท้จากของปลอมไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากรู้เทคนิคการตรวจสอบและสังเกตจากลักษณะเฉพาะของทองคำแท้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าได้รับทองคำที่มีคุณภาพและมีมูลค่าตามที่จ่ายเงินไป

1. ตรวจสอบตราประทับ (Hallmark)

หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบทองคำแท้คือการมองหาตราประทับหรือตราสัญลักษณ์ที่แสดงถึงเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ของทองคำ ทองคำแท้จะต้องมีตราประทับบ่งบอกเปอร์เซ็นต์ เช่น 24K (99.99%), 18K (75%), หรือ 14K (58.5%) ที่ระบุถึงความบริสุทธิ์ของทองคำ โดยตราประทับนี้มักจะอยู่ในบริเวณที่มองเห็นได้ชัดเจน เช่น ขอบด้านในของแหวน หรือหลังสร้อยทอง หากไม่มีตราประทับหรือพบว่าเป็นตราประทับที่ไม่ชัดเจน ควรระวังว่าอาจเป็นทองคำปลอม

2. การทดสอบแม่เหล็ก

ทองคำบริสุทธิ์ไม่มีคุณสมบัติในการดูดแม่เหล็ก ดังนั้นวิธีง่าย ๆ ที่ใช้ตรวจสอบทองคำแท้คือการนำแม่เหล็กมาทดสอบ หากทองคำถูกดึงดูดโดยแม่เหล็ก หรือแสดงปฏิกิริยาทางแม่เหล็กแสดงว่าเป็นทองคำปลอมหรือทองที่มีส่วนผสมของโลหะอื่นที่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก ทองคำแท้จะไม่ทำปฏิกิริยากับแม่เหล็ก ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณ

3. การทดสอบด้วยน้ำส้มสายชู

อีกวิธีหนึ่งในการตรวจสอบทองคำแท้คือการใช้ น้ำส้มสายชู เพียงแค่นำน้ำส้มสายชูมาหยดลงบนพื้นผิวของทองคำ แล้วสังเกตผลลัพธ์ ทองคำแท้จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือทำปฏิกิริยากับน้ำส้มสายชู แต่หากทองคำเปลี่ยนสีหรือเกิดการกัดกร่อน แสดงว่าเป็นทองคำปลอมหรือทองคำที่มีส่วนผสมของโลหะอื่น

4. การทดสอบความถ่วงจำเพาะ (Density Test)

ทองคำแท้มีความหนาแน่นสูงและมีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับขนาด การทดสอบความถ่วงจำเพาะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแยกทองคำแท้ออกจากทองคำปลอม ทองคำบริสุทธิ์มีความถ่วงจำเพาะประมาณ 19.3 ซึ่งสูงกว่าโลหะอื่นที่ใช้ทำทองปลอม การทดสอบความถ่วงจำเพาะนี้สามารถทำได้โดยช่างมืออาชีพหรือที่ร้านค้าทองที่มีเครื่องมือเฉพาะในการวัดความถ่วงจำเพาะของทองคำ

5. ตรวจสอบผ่านผู้เชี่ยวชาญหรือร้านค้าทองที่เชื่อถือได้

หากผู้ซื้อไม่แน่ใจเกี่ยวกับคุณภาพของทองคำที่ต้องการซื้อ ควรพาไปตรวจสอบที่ร้านค้าทองหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีความน่าเชื่อถือ ร้านทองที่ได้รับการรับรองมักจะมีบริการตรวจสอบคุณภาพทองคำ รวมถึงการออกใบรับรองให้กับทองคำแท้ การเลือกซื้อทองคำจากร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือยังช่วยลดความเสี่ยงในการซื้อทองคำปลอม การเลือกซื้อจากแหล่งที่ได้รับการรับรองและมีใบรับรอง จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทองคำที่ซื้อมามีคุณภาพและมาตรฐานที่ถูกต้อง

6. ทดสอบด้วยกรดไนตริก (Nitric Acid Test)

กรดไนตริกเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการอัญมณีเพื่อทดสอบทองคำ วิธีนี้เป็นการหยดกรดไนตริกลงบนทองคำ หากเป็นทองคำแท้จะไม่ทำปฏิกิริยาใด ๆ กับกรดไนตริก แต่หากเป็นทองคำปลอมซึ่งมีส่วนผสมของโลหะอื่น กรดไนตริกจะทำให้พื้นผิวเกิดฟองหรือเปลี่ยนสี อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวังและควรใช้โดยช่างหรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

7. การทดสอบด้วยเครื่อง XRF (X-ray Fluorescence)

เทคโนโลยี XRF เป็นเครื่องมือที่ใช้ในห้องปฏิบัติการและร้านค้าทองเพื่อวิเคราะห์ส่วนประกอบของโลหะในทองคำ เครื่อง XRF สามารถบอกได้ว่าทองคำนั้นมีส่วนผสมของอะไรบ้าง และมีเปอร์เซ็นต์ทองคำบริสุทธิ์เท่าใด วิธีนี้เป็นวิธีที่แม่นยำและปลอดภัยที่สุดในการตรวจสอบทองคำ แต่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษและสามารถทำได้ในห้องปฏิบัติการเท่านั้น

วิธีหลีกเลี่ยงทองคำปลอม

  1. ซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ การเลือกซื้อทองคำจากร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือและมีประวัติยาวนานช่วยลดโอกาสในการได้รับทองคำปลอม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าร้านค้าที่เลือกซื้อนั้นได้รับการรับรองจากสมาคมค้าทองคำหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  2. ดูใบรับรองคุณภาพ เมื่อซื้อทองคำ ควรขอใบรับรองคุณภาพจากร้านค้าเสมอ ใบรับรองนี้จะบอกถึงรายละเอียดของทองคำ เช่น ความบริสุทธิ์ น้ำหนัก และลักษณะเฉพาะของทองคำ
  3. เปรียบเทียบราคาตลาด ทองคำแท้มีราคาที่อ้างอิงจากตลาดทองคำโลก ดังนั้นหากเจอทองคำที่ขายในราคาต่ำกว่าราคาตลาดอย่างผิดปกติ ควรตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นทองคำปลอมหรือทองคำที่มีส่วนผสมของโลหะอื่น

การมีความรู้และเทคนิคการตรวจสอบทองคำแท้ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถหลีกเลี่ยงการถูกหลอกและมั่นใจได้ว่าทองคำที่ได้รับมีคุณภาพจริง การเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและการตรวจสอบคุณภาพ ยังเป็นอีกวิธีที่สำคัญในการลดความเสี่ยงในการได้ของปลอม

สุดยอดผู้ให้บริการที่ได้รับรางวัลอันดับ 1 ในปี 2016กับงาน รับทำ SEO ที่มีผู้เชื่อมั่นมากที่สุด. รับทำ SEO และ รับทำ SEO สายขาว