โกดังขาย เติมเกมฟีฟาย
ความรู้ทั่วไป

ทองคำแท้ vs ทองคำเทียม ความแตกต่างที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อ

การเลือกซื้อทองคำถือเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและสามารถรักษามูลค่าได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ในตลาดทองคำปัจจุบัน ผู้ซื้อจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับความแตกต่างระหว่าง ทองคำแท้ และ ทองคำเทียม เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและคุ้มค่าที่สุด การแยกแยะทั้งสองชนิดของทองคำนั้นไม่เพียงแค่ช่วยป้องกันการถูกหลอกลวง แต่ยังเป็นการรับรองว่าคุณจะได้รับสินค้าที่มีมูลค่าจริงตามที่ต้องการ

ทองคำแท้เป็นทองคำที่มี ความบริสุทธิ์สูง โดยทั่วไป ทองคำแท้จะถูกวัดในรูปของเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ เช่น ทองคำ 24K (99.99% บริสุทธิ์) ซึ่งเป็นทองคำที่มีมูลค่าสูงสุด การลงทุนในทองคำแท้ไม่เพียงแต่เป็นการซื้อสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเอง แต่ยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวน ทองคำแท้ยังมีคุณสมบัติในการคงรูป ไม่เปลี่ยนสี และไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีหรือความชื้น จึงเป็น สินทรัพย์ที่ทนทานและสามารถเก็บรักษาไว้ได้เป็นเวลานาน ทองคำแท้มักจะถูกนำไปใช้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ทองคำแท่ง ทองคำรูปพรรณ และเหรียญทองคำ ซึ่งทุกประเภทนี้สามารถซื้อขายได้ในตลาดทั่วไป

ทองคำเทียมคือทองคำที่ทำจากวัสดุที่คล้ายกับทองคำ แต่ไม่ได้มีทองคำบริสุทธิ์เป็นส่วนประกอบหลัก ทองคำเทียมอาจมีการเคลือบด้วยทองคำบาง ๆ หรือทำจากโลหะอื่นที่ถูกเคลือบให้มีสีคล้ายทองคำ ซึ่งทองคำเทียมมักมีราคาถูกกว่าทองคำแท้มาก คุณค่าของทองคำเทียมอยู่ที่รูปลักษณ์ แต่ขาดมูลค่าทางเศรษฐกิจและไม่สามารถเก็บไว้เป็นการลงทุนได้ การซื้อทองคำเทียมจึงเป็นการซื้อเพื่อความสวยงามหรือใช้เป็นเครื่องประดับชั่วคราว แต่ไม่สามารถนำไปขายหรือเปลี่ยนเป็นเงินได้ในกรณีที่ต้องการเงินสด เนื่องจากทองคำเทียมไม่ได้มีมูลค่าจริงเหมือนกับทองคำแท้

วิธีแยกแยะทองคำแท้จากทองคำเทียม

การแยกแยะทองคำแท้และทองคำเทียมเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ซื้อ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ ควรพิจารณาในประเด็นต่อไปนี้

  1. การตรวจสอบตราประทับ ทองคำแท้จะมีตราประทับที่บ่งบอกถึงเปอร์เซ็นต์ความบริสุทธิ์ เช่น 24K, 18K หรือ 14K ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการแยกแยะทองคำแท้จากทองคำเทียม ในขณะที่ทองคำเทียมอาจไม่มีตราประทับหรือมีตราประทับที่ไม่ชัดเจน
  2. การทดสอบแม่เหล็ก ทองคำแท้จะไม่ทำปฏิกิริยากับแม่เหล็ก หากนำทองคำมาทดสอบโดยใช้แม่เหล็กแล้วพบว่ามีการดึงดูด แสดงว่าทองคำนั้นเป็นทองคำเทียมหรือมีส่วนประกอบของโลหะอื่นที่มีคุณสมบัติทางแม่เหล็ก
  3. การเปลี่ยนสีเมื่อใช้งาน ทองคำเทียมเมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจเกิดการลอกหรือเปลี่ยนสีจากสีทองเป็นสีอื่น เช่น สีเงินหรือสีดำ ซึ่งทองคำแท้จะไม่มีการเปลี่ยนสีใด ๆ และยังคงรักษาความเงางามได้เสมอ
  4. ราคาที่แตกต่างกันชัดเจน ทองคำแท้จะมีราคาสูงตามราคาตลาดในแต่ละวัน ขณะที่ทองคำเทียมมักมีราคาต่ำกว่ามาก ดังนั้น หากราคาของทองคำที่คุณสนใจต่ำเกินไป ควรตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นทองคำเทียม

เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับทองคำแท้ ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรอง หรือที่มีใบรับรองคุณภาพจากสมาคมค้าทองคำ การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้า และการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับทองคำที่ต้องการซื้อจะช่วยป้องกันการถูกหลอกลวงจากการขายทองคำเทียม

ทองคำแท้และทองคำเทียมมีความแตกต่างที่สำคัญทั้งในเรื่องของมูลค่าและคุณภาพ การรู้วิธีแยกแยะทั้งสองประเภท จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อทองคำได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางการเงิน หรือการซื้อเพื่อความสวยงามและการใช้งานส่วนตัว

สุดยอดผู้ให้บริการที่ได้รับรางวัลอันดับ 1 ในปี 2016กับงาน รับทำ SEO ที่มีผู้เชื่อมั่นมากที่สุด. รับทำ SEO และ รับทำ SEO สายขาว